วิถีชีวิตชุมชนเมือง
กรณีศึกษาชุมชนวัดประชาระบือธรรม
The ways of life in Urban Community: A
Case of Wat Pracharabuedham Community
ผู้วิจัย : ภูสิทธ์ ขันติกุล
หลักการและเหตุผล
(Reasonable)
ชุมชนวัดประชาระบือธรรม
เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีอายุราว 112 ปี ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้ประกอบอาชีพทำนา
ทำสวนผลไม้ เป็นหลัก ผู้คนตั้งบ้านเรือนอยู่ห่างกันมีวิถีชีวิตแบบชาวนาชาวสวน
ดำรงชีวิตทุกอย่างอิงอยู่กับธรรมชาติ การเดินทางสัญจรต่าง ๆ
ของประชาชนยังใช้เรือเป็นหลัก ครั้นเมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคโลกาภิวัตน์ ประชาชนให้ความสำคัญกับความเจริญทางด้านวัตถุมากขึ้น
การเปิดรับข้อมูลข่าวสาร และวัฒนธรรมจากภายนอกชุมชนเพิ่มมากขึ้น
ความเจริญเหล่านั้นได้หลั่งไหลเข้าสู่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเชิงกายภาพ
สังคมและวัฒนธรรม แตกต่างกันไปในหลากหลายมิติ เกิดการติดยึดกับการบริโภคนิยมตามกระแส
การเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างได้ผูกโยงให้เกิดปัญหาภายในชุมชนมากมาย ส่งผลต่อความกลมเกลียวเหนี่ยวแน่นภายในชุมชนความผูกพันในครอบครัวในชุมชนเริ่มจางหายไปจากวิถีชีวิตดั้งเดิม
และทิ้งไว้เพียงร่องรอยอดีตที่จวนเจียนจะหายไปจากชุมชน
ดังนั้นถ้าหากไม่ได้ทำการศึกษาในครั้งนี้จะส่งผลต่อเยาวชนรุ่นหลัง
ที่ไม่สามารถทราบรากเหง้าวิถีชีวิตที่แท้จริงของชุมชนที่ตนอาศัยอยู่ได้เลย
วัตถุประสงค์
(Objectives)
1.
เพื่อสืบค้นวิถีชีวิตชุมชนวัดประชาระบือธรรมในบริบททางสังคมเศรษฐกิจ
และบริบททางวัฒนธรรม
2. เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพพื้นที่ชุมชนวัดประชาระบือธรรม
3. เพื่อศึกษาวิถีชีวิตชุมชนเมืองในสภาพปัจจุบันของชุมชนวัดประชาระบือธรรม
ระเบียบวิธีวิจัย
(Research Methodology)
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ
โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสำรวจสภาพข้อมูลทั่วไปของชุมชน แบบสังเกต และแบบสัมภาษณ์
มีเทคนิคเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบไม่ใช้ความน่าจะเป็นคือ แบบเจาะจง สำหรับการคัดเลือกชุมชน
และแบบสโนว์บอล สำหรับสัมภาษณ์ผู้นำชุมชน และปราชญ์ชาวบ้าน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการตีความสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย
และวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผล/สรุปผลการวิจัย (Result)
สภาพพื้นที่ในอดีตชุมชนวัดประชาระบือธรรม
เป็นที่ราบลุ่มและเป็นทุ่งหญ้า มีลำคลอง 1 ลำคลองเรียกว่า “คลองบางกระบือ” มีแบบแผนวิถีชีวิตแบบชาวนาชาวสวนอิงอาศัยธรรมชาติในการดำรงชีวิต
เป็นสำคัญ การตั้งบ้านเรือนจะอยู่ในสวนผลไม้ของตนเองและใกล้กับลำคลองบางกระบือ
ซึ่งจะมีลักษณะเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง เพื่อป้องกันน้ำท่วม ประชาชนอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่มีความผูกพันกันอย่างเหนี่ยวแน่น
ส่วนการประกอบอาชีพนั้นประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพคล้ายคลึงกัน
เป็นสังคมทางการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ ซึ่งอาชีพทำการเกษตร และเลี้ยงสัตว์ ในส่วนวัฒนธรรมที่ประชาชนยึดถือนั้นเป็นไปตามคติความเชื่อในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาเป็นแก่นในการดำรงชีวิต
เช่น ทำบุญในวันขึ้นปีใหม่ วันสงกรานต์ เป็นต้น
เมื่อมีการพัฒนาถนนหนทางเข้ามาสู่ชุมชนวัดประชาระบือธรรม ได้ทำให้วัฒนธรรม ค่านิยม
ความเจริญจากภายนอกหลั่งไหลเข้าสู่ชุมชนอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านที่อยู่อาศัย
การประกอบอาชีพ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ วิถีชีวิตของประชาชนเริ่มเปลี่ยนไปพร้อมกับอาชีพที่หลากหลาย
ประชาชนหันไปทำงานนอกบ้านเป็นหลัก ใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนน้อยลง
บ้านใกล้เรือนเคียงไม่รู้จักกัน ไม่มีเวลาให้กับครอบครัว
ออกจากบ้านแต่เช้ากลับถึงบ้านค่ำ พฤติกรรมเหล่านี้คือวิถีชีวิตของคนส่วนใหญ่ในชุมชนวัดประชาระบือธรรม
ด้วยการเป็นชุมชนเปิด ส่งผลให้ประชาชนหลั่งไหลเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ชุมชนมากขึ้น
อาณาเขตของชุมชนเพิ่มขึ้นไปด้วย ทำให้การดูแลของผู้นำชุมชนไม่ทั่วถึง จึงมีการแบ่งชุมชนออกเป็น
4 ชุมชน คือ ชุมชนวัดประชาระบือธรรม 1-4 ดังเช่นในปัจจุบันนี้
อภิปรายผล
(Discussion of
Research)
ชุมชนวัดประชาระบือธรรม
ชุมชนแห่งนี้งอยู่ถนน พระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
เป็นชุมชนเมือง ที่มีพื้นที่บางส่วนเป็นอาคารพาณิชย์ บางส่วนเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นปูน ชั้น 2 เป็นไม้
บางส่วนเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นใต้ถุนมีตรอก ซอยสามารถทะลุถึงกันได้ตลอดชุมชนจึงจัดเป็นชุมชนเปิด
การประกอบอาชีพประชาชนมีหลากหลายตามความถนัดของตนเอง การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
ทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม นั้นส่วนสำคัญที่สุดคือเป็นผลมาจากการสร้างถนนเข้ามาสู่ชุมชน
จนทำให้ความเจริญได้หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของวีณา
เอี่ยมประไพ (2550) เรื่อง วิถีชีวิตชุมชนคลองบางกอกน้อย
พบว่า
รัฐได้พัฒนาบ้านเมืองด้วยการสร้างเส้นทางถนนเข้าสู่ชุมชนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ทางกายภาพและพื้นที่ทางสังคม
ซึ่งถนนเป็นปัจจัยหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้พื้นที่แตกต่างไปจากเดิม และสุกัญญา
สุจฉายา และนันทิยา สว่างวุฒิธรรม (2546) เรื่องอัตลักษณ์ของชาวคลองภูมิ
เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร พบว่า
พื้นที่คลองภูมิเป็นพื้นที่สวนผลไม้ที่มีความร่มรื่น
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโดยการตัดถนนย่านพระราม 3
ก่อให้เกิดเปลี่ยนแปลงจากสภาพภายนอกได้ส่งผลในด้านการดำรงชีวิตของประชาชนด้วย
ข้อเสนอแนะ
(Research
Recommendations)
ผู้นำชุมชน
ประชาชนควรกระตุ้นคนในชุมชนเกิดความตระหนักในการอนุรักษ์ร่องรอยในอดีตเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เป็นตัวตนวิถีชีวิตของปู่ย่า
ตายายให้กับคนรุ่นหลังต่อไป
รูปภาพที่ใช้ในแผ่นพับ
บ้านไม้ใต้ถุนสูง
และอุปกรณ์การทำอาหารรุ่นคุณทวด ปู่ย่า ตายาย ของคุณป้าพัชนี กุลสูตร ชุมชนวัดประชาระบือธรรม
2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น